บทคัดย่อ
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็กเล็กควรได้รับความสำคัญ เนื่องจากเด็กยังขาดประสบการณ์ในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผลกระทบในทางลบที่อาจเกิดขึ้น ผู้ปกครองไทยจำนวนไม่น้อยยังคงมีพฤติกรรม “แชร์” หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุตรหลานบนสื่อสังคมออนไลน์ การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจระดับความตระหนักรู้ของผู้ปกครองไทยต่อความเป็นส่วนตัวของเด็ก โดยมุ่งเน้นการระบุประเด็นที่ควรได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม
การวิจัยใช้แบบสอบถามมาตราส่วนไลเคิร์ต 4 ระดับ กับผู้ปกครองไทยจำนวน 96 คน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับความตระหนักรู้ในระดับปานกลางเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบของการแชร์ข้อมูล ขณะเดียวกันมีระดับความตระหนักรู้สูงเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวของเด็ก
ทั้งนี้ ความตระหนักรู้ในระดับปานกลางเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบ อาจมีสาเหตุมาจากความเชื่อของผู้ปกครองในสิทธิในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับลูกของตนบนสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่ความตระหนักรู้ในระดับสูงเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับ อาจได้รับอิทธิพลจากการที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเฉพาะด้านความเป็นส่วนตัวของเด็ก ส่งผลให้ผู้ปกครองเห็นความจำเป็นในการมีบทบัญญัติกฎหมายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
คำสำคัญ: การแชร์เรื่องลูกบนโซเชียล (Sharenting), สื่อสังคมออนไลน์, กฎหมายความเป็นส่วนตัว, เสรีภาพในการแสดงออก
วิธีวิจัย: การสำรวจ (Survey)
ผู้วิจัย: สุรัญชนา ธรรมราชชัย, ณัฐสุดา เงินอาจ, และปริญดา จันโทรี
วารสาร: วารสารพฤติกรรมมนุษย์ พัฒนาการ และสังคม (Human Behavior Development and Society)
ปีที่ตีพิมพ์: พ.ศ. 2566
ลิงก์ข้อมูลเพิ่มเติม: คลิกที่นี่เพื่ออ่านฉบับเต็ม