Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการอบรมเลี้ยงดูลูกของครอบครัวที่มีลูกหูหนวกที่มีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองสูง และอุปสรรคในการอบรมเลี้ยงดูลูกของครอบครัวที่มีลูกหูหนวกที่มีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองสูง กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาคือ ครอบครัวของนักศึกษาหูหนวกที่มีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองสูงของวิทยาลัยราชสุดา จำนวน 7 ครอบครัว คัดเลือกโดยใช้วิธีการยึดจุดมุ่งหมายของการศึกษาเป็นหลัก ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบตรวจสอบรายการเกี่ยวกับความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน และแบบสัมภาษณ์การอบรมเลี้ยงดูบุตรที่มีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองสูง การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ความถี่ ค่าเฉลี่ย และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ปกครองของเด็กหูหนวกที่มีระดับความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองสูง มีรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูบุตร 3 แบบคือ 1) แบบประชาธิปไตย 2) แบบรักถนอมมากเกินไป 3) แบบการเป็นแบบอย่างให้กับเด็ก และผู้ปกครองไม่ได้มีจุดมุ่งหมายของการอบรมเลี้ยงดูลูกเพื่อต้องการให้ลูกเป็นผู้ที่มีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างชัดเจน แต่จากรูปแบบของการอบรมเลี้ยงดูลูกที่พ่อแม่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูที่เอื้อให้ลูกมีคุณลักษณะของผู้ที่มีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองบางประการ คือ ความคิดสร้างสรรค์ ความรับผิดชอบ และความรักในการเรียนรู้ สำหรับอุปสรรคในการอบรมเลี้ยงดูลูกของครอบครัวที่มีลูกหูหนวกที่มีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยการชี้นำตนเองสูง พบว่าผู้ปกครองมีอุปสรรคในการอบรมเลี้ยงดูลูก 2 ประการคือ 1) อุปสรรคในส่วนของผู้ปกครอง 2) อุปสรรคในส่วนของตัวลูก
Methods
วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ
Author
Journal
ศิลปากรศีกษาศาสตร์วิจัย มหาวิทยาลัยศิลปากร
Year 2015